การกักเก็บนักเตะท้องถิ่นที่มีฝีมือไม่สามารถทำได้
ในตลาดซื้อขายครั้งนี้ “เจลีก ไม่สามารถแข่งขันเรื่องเงินกับสโมสรในทวีปเอเชียอย่าง
จีน ได้เลย สิ่งที่จะทำให้สโมสรจากญี่ปุ่นก้าวหน้าในระดับทวีปได้คือ พวกเขาจะต้องรักษานักเตะท้องถิ่นที่มีพรสวรรค์เอาไว้กับทีม และดึงตัวนักเตะต่างประเทศในระดับที่ดีที่สุดเข้ามาเพิ่ม”นักเตะท้องถิ่นของพวกเขาเก่งและมีคุณภาพอยู่เเล้ว แต่นักเตะต่างชาติคือคุณภาพที่สามารถชี้ขาดผลการแข่งขันได้” เดยัน ดัมยาโนวิช หนึ่งในนักเตะยุโรปที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด
ในการค้าแข้งในเอเชีย กล่าว เมื่อเรื่องเงินถูกจำกัด และการกักเก็บนักเตะท้องถิ่นที่มีฝีมือไม่สามารถทำได้ มันจึงเป็นเหตุให้การผูกขาดแชมป์และสร้างความนิยมในลีกแต่เพียงผู้เดียวเป็นไปได้ยาก นอกจากนี้แฟนบอลของแต่ละทีมก็ยังไม่ได้เรียกร้องอะไรมากไปกว่านี้ พวกเขายังคงมีความสุขที่ได้เห็นทีมรักลงเล่นในลีกสูงสุดของประเทศ ไล่ล่าแชมป์และมีการเเข่งขันที่เข้มข้น แม้ที่สุดเเล้วเมื่อถึงในระดับทวีปทีมจากญี่ปุ่นจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จในฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ตาม นั่นไม่สำคัญสำหรับแฟนบอลเท่าไรนัก “ฟุตบอลของญี่ปุ่นไมได้แข็งแกร่งในระดับทวีปเท่าที่ควร จริงอยู่ที่พวกเขาสามารถสู้ได้ทุกทีมในทวีป แต่พวกเขาไม่ได้โฟกัสไปที่ตรงนี้มากนัก ลีกที่นี่ต่างกับยุโรปพอสมควร แฟนบอลญี่ปุ่นชอบการแข่งขันระดับท้องถิ่นมากกว่าระดับ เอเอฟซี
เพราะพวกเขาต้องเดินทางไกลและเจอกับทีมที่มีคุณภาพเป็นรองและไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากนัก
ความนิยมตรงนี้จึงน้อยมาก ๆ” Pedro Iriondo กล่าวถึงเรื่องนี้ต่อและอธิบายว่า ลีกญี่ปุ่นจะยังคงเข้มข้นเฉพาะในการเเข่งขันในลีกต่อไปและยากที่จะมีมหาอำนาจแบบกินรวบเหมือนกับลีกอื่น ๆ ในยุโรป เมื่อเกมระดับทวีปไม่ใช่เป้าหมายหลักก็ไม่จำเป็นต้องทุ่มซื้อนักเตะต่างชาติที่เปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันได้ ดังนั้นพวกเขาจึงสู้กันด้วยไพ่ที่มีอยู่ในมือต่อไป …
และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่แนวคิดนี้จะเปลี่ยนแปลง “สิ่งที่ญี่ปุ่นใช้บริหารองค์กรและเป็นแนวทางของฟุตบอลของพวกเขา คือความมีวินัยและการทำงานหนัก ซึ่งการทำงานแบบนี้จะพาคุณไปได้ไกลแน่นอน เพียงแต่ว่าหลังจากนั้นคุณจะต้องพึ่งในสิ่งที่เรียกว่านวัตกรรม(สิ่งที่ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งอาจเป็นเทคโนโลยี แนวความคิด ฯลฯ) ซึ่งตรงนี้ยังเป็นเรื่องที่หายากในฟุตบอลญี่ปุ่นอยู่” อัฟชิน ก็อตบิ เฮ้ดโค้ชชาว อิหร่าน ที่เคยคุมสโมสรในญี่ปุ่นอย่าง ชิมิสึ เอสพัลส์ กล่าวนี่คือเบื้องหลังความเข้มข้นและการคาดเดาไม่ได้ของฟุตบอลเจลีก นี่เป็นการแข่งขันที่วัดกันแบบปีต่อปี นัดต่อนัด ของแต่ละสโมสร หากพวกเขาหาแนวทางและปรัชญาของตัวเองเจอ และพวกเขาก็มีลุ้นเรื่อย ๆ เหมือนกับที่ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ เป็น ซึ่งนี่คือวิธีที่ทำให้สโมสรญี่ปุ่นใกล้เคียงการเป็นแชมป์ได้มากที่สุด ส่วนเรื่องการจองแชมป์ในระยะยาว
ยิ่งใหญ่เป็นสิบ ๆ ปีคงเกิดขึ้นได้ยากตามวัฏจักรที่ได้กล่าวไปข้างต้น และนี่คือแนวคิดแบบเจลีกสไตล์ การเปลี่ยนเเปลงแนวคิดดังกล่าวจะมาถึงตอนไหนไม่มีใครรู้ได้ ไม่แน่อาจจะต้องรอหลังจากญี่ปุ่นได้เป็นแชมป์โลกก่อนตามแผนงานแรกที่ตั้งไว้ และหากชาติประสบความสำเร็จแล้ว ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะมีแผนผลักดันมาตรฐานของเจลีกในอนาคตให้กลายเป็นลีกระดับทวีป หรือระดับโลกก็เป็นได้
ติดตามบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ ksfuerte.com