ระบบการศึกษาญี่ปุ่น

ระบบการศึกษาญี่ปุ่นที่คุณอาจไม่เคยทราบมาก่อน

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบประเทศญี่ปุ่น และชื่มชมความมีระเบียบวินัยของคนญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ บทความนี้จะต้องเป็นที่สนใจสำหรับคุณอย่างแน่นอน ซึ่งคุณจะได้รู้อะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับระบบการศึกษาญี่ปุ่นที่คุณไม่เคยทราบมาก่อน เช่น เวลาพักกลางวัน นักเรียนจะต้องนั่งทานอาหารร่วมกับคุณครูในห้องเรียน เป็นต้น ไปดูกันเลย ว่ายังมีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง

1. ใน 3 ปีแรกของการเข้าเรียนจะที่ญี่ปุ่นไม่มีการสอบเลย
เหตุผลที่เด็กนักเรียนญี่ปุ่นไม่ต้องสอบเลยจนกว่าจะขึ้น ป.4 ก็เพราะว่า คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับค่านิยมเรื่องมารยาทและขนบธรรมเนียมประเพณีมาก ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น พวกเขาจะให้ความสำคัญกับการสอนเรื่องมารยาททางสังคมให้กับเด็กมากกว่าที่จะเน้นติวเนื้อหาที่มุ่งไปในด้านการสอบ ซึ่งพวกเขาเชื่อกว่าลักษณะและบุคลิกภาพของเด็กควรที่จะได้รับการพัฒนาเป็นอย่างยิ่ง

และเรื่องการให้ความเคารพผู้อื่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ถูกสอนในห้องเรียนที่ญี่ปุ่น นักเรียนควรให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกัน ที่สำคัญควรเคารพครูผู้สอนด้วย เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างครูและนักเรียน และจะเห็นได้ชัดว่านักเรียนญี่ปุ่นจะไม่อยากทำให้คุณครูรู้สึกผิดหวังเลย ทุกคนล้วนอยากแสดงออกในทางที่เหมาะสม

2. นักเรียนจะเป็นผู้ดูและรักษาความสะอาดภายในโรงเรียน
นักเรียนญี่ปุ่นจะต้องดูแลในเรื่องความสะอาดด้วยตัวเอง พวกเขาต้องทำความสะอาดทั้งห้องเรียนและห้องน้ำ โดยจุดประสงค์ก็เพื่อสอนนักเรียนให้รู้จักถึงการทำงานเป็นทีม การมีความรับผิดชอบร่วมกัน รวมถึงเป็นการปลูกฝังด้านการดูแลรักษาสิ่งของ ไม่ใช่แค่ให้ความสำคัญกับบุคคลเพียงอย่างเดียว หรือบางที เราอาจรู้ว่าเขาเป็นคนเอาใจใส่ผู้อื่นมากน้อยแค่ไหน จากการแสดงออกด้านการดูแลรักษาและใส่ใจสถานที่ของพวกเขาก็ได้

ระบบการศึกษาญี่ปุ่น

3. นักเรียนจะต้องทานอาหารที่มีคุณประโยชน์ครบถ้วน
ถ้าไม่นับนักเรียนที่แพ้อาหารบางชนิด นักเรียนญี่ปุ่นทุกคนจะได้รับอาหารที่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด ซึ่งจะไม่เหมือนกับอาหารกลางวันของโรงเรียนในหลายๆ ประเทศ ที่มักเป็นอาหารที่มีสารอาหารไม่ครบ 5 หมู่ และมีไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพ คนญี่ปุ่นจะสอนเด็กให้กินอาหารที่มีประโยชน์ โดยให้คำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการเป็นหลัก โดยรายการอาหารภายในโรงเรียนจะถูกคิดค้นจากการร่วมมือกันของผู้เชี่ยวชาญทางด้านโภชนาการและเชฟมืออาชีพ นอกจากนี้อาหารกลางวันในโรงเรียนส่วนใหญ่จะทำจากส่วนผสมและวัตถุดิบที่สดใหม่เสมอ และหาได้ในท้องถิ่นอีกด้วย

และเพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูและนักเรียน ครูทุกคนจะทานอาหารร่วมกับนักเรียนเสมอ หลาย ๆ ครั้ง นักเรียนญี่ปุ่นจะมีการส่งอาหารให้กันและกัน เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบและการประพฤติตนที่ดีของนักเรียนในชั้นเรียนอีกด้วย

4. โรงเรียนรัฐจะสอนศิลปะดั้งเดิม
ซึ่งเป็นทักษะความรู้ที่คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญและมองว่าเป็นพื้นฐานที่ควรมี ในระบบการศึกษาของพวกเขานั้น ไปไกลกว่าระบบการศึกษาในประเทศอื่นมาก นักเรียนญี่ปุ่นต้องเรียนศิลปะดั้งเดิมของพวกเขา เช่น Shodo (อักษรวิจิตร หรือศิลปะด้านการคัดลายมือ) และ haiku (ร้อยกรองรูปแบบหนึ่ง) โดย Shodo ในที่นี้จะรวมทั้งการเขียนแบบคันจิและคะนะ โดยเป็นการใช้พู่กันจีนจุ่มหมึก วาดลงบนกระดาษสา ศิลปะชนิดนี้ต้องใช้ความรู้ทางด้านภาษา อีกทั้งยังช่วยปลูกฝังเด็กให้เห็นถึงความสำคัญของวัฒนธรรมและประเพณีที่เก่าแก่ นอกจากนี้ทักษะการเขียน haiku ยังช่วยให้นักเรียนตระหนักถึงคุณค่าของขนบธรรมเนียมประเพณีของชาติและวัฒนธรรมของตนด้วยเช่นกัน

5. นักเรียนญี่ปุ่นจะต้องสวมใส่ชุดนักเรียน
เหมือนกับประเทศไทย โรงเรียนรัฐเกือบทุกโรงเรียนในญี่ปุ่นจะบังคับให้เด็กตั้งแต่มัธยมต้นเป็นต้นไปใส่ชุดนักเรียน แม้มาตรฐานของแต่ละโรงเรียนจะแตกต่างกัน แต่หลาย ๆ โรงเรียนก็มีรูปแบบที่ใช้ร่วมกันซึ่งก็คือ มีรูปแบบคล้ายทหาร ชุดสีดำสำหรับผู้ชาย และสำหรับผู้หญิงจะเป็นเสื้อทรงทหารเรือกับกระโปรง ซึ่งชุดนักเรียนจะเป็นโทนสีและทรงที่สุภาพ

เหตุผลที่ได้มีการกำหนดให้มีการใส่ชุดนักเรียนขึ้นมา แท้จริงแล้วมีความจริงบางประการอยู่เบื้องหลัง ซึ่งนั่นก็คือ เมื่อนักเรียนทุกคนใส่ชุดที่เหมือนกัน จะก่อให้เกิดความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นการป้องกันไม่ให้เด็กกระทำการใดๆ ที่จะทำให้สถาบันเสื่อมเสียชื่อเสียงและเพื่อให้เด็กให้ความสำคัญกับการเรียนมากกว่าสิ่งอื่นใด บางโรงเรียนในญี่ปุ่นถึงขั้นบังคับให้เด็กใช้กระเป๋าเป้ของโรงเรียนเพียงเท่านั้นด้วย รวมถึงเรื่องการแต่งหน้าและทรงผมก็ยังเป็นที่บังคับในบางโรงเรียนด้วยเช่นกัน

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ ksfuerte.com

Releated